เนื้อหา ของ เด เวอร์มิส มิสเทรีส

ในตอนแรกนั้น บล็อกได้ระบุว่าหนังสือเล่มนี้มีเวทมนตร์และคาถาซึ่งสามารถเรียกสิ่งแปลกประหลาดมาได้ และหนึ่งในนั้นก็คือคาถาเรียก "สิ่งงุ่มง่ามจากดวงดาว" (shambler from the stars) ซึ่งในเกมเล่นตามบทบาท เสียงเรียกของคธูลูนั้นได้ตั้งชื่อไว้อีกชื่อว่า แวมไพร์ดารา คาถานี้อยู่นบท "ว่าด้วยสัตว์รับใช้" และยังระบุว่าหนังสือเล่มนี้อ้างถึง "เทพศักดิ์สิทธิ์อย่าง เทพบิดรยิก ดาร์คฮัน และอสรพิษมีเครา เบียทิส"

บล็อกได้ขยายความเกี่ยวกับเนื้อหาของเด เวอร์มิส มิสเทรีสในตำนานคธูลูเรื่องต่อ ๆ มา โดยในเรื่อง The Faceless God (พ.ศ. 2479) ระบุว่าพรินน์นั้นได้รับความรู้มากมายจากไนอาลาโธเทป "เทพผู้เก่าแก่ที่สุดแห่งอียิปต์" ในเรื่อง The Brood of Bubastis The Secret of Sebek และ Fane of the Black Pharaoh (ทั้งหมดได้รับการเผยแพร่ในพ.ศ. 2480) บล็อกก็ได้อ้างถึงบทที่ชื่อ "พิธีซาราเซนิค" (Saracenic Rituals) ซึ่ง "เผยถึงเรื่องราวของอิฟริทและญิน ความลับของนิกายมือสังหาร ตำนานของกูล พิธีลับของลัทธินักพรต" และ "ตำนานทั้งหลายของอียิปต์ใน"[1] ซึ่งโรเบิร์ต บล็อก ใช้เรื่องราวเหล่านี้เพื่อประกอบเป็นภูมิหลังของลัทธิบูชาบูบาสติสกับโซเบค และการบูชาไนอาลาโธเทปของฟาโรห์เนเฟรน-คา

บล็อกยังได้อ้างอิงเด เวอร์มิส มิสเทรีสในเรื่องอื่น ๆ ที่อยู่นอกตำนานคธูลูด้วยเช่นกัน โดยในเรื่อง The Sorcerer's Jewel (พ.ศ. 2482) ได้อ้างถึงบท"ว่าด้วยการทำนายดวงชะตา" เป็นแหล่งข้อมูลของแก้วผลึกลึกลับชื่อ "ดาราแห่งเซคเมท" และในเรื่อง Black Bargain (พ.ศ. 2485) ได้บรรยายถึงหนังสือเล่มนี้ว่ามีเรื่องของการปรุงยาสมุนไพรและวาดวงกลมเพลิงในยามที่ดวงดาวอยู่ในตำแหน่งอันเหมาะสม วิธีการหล่อเทียนไขจากไขมันที่สกัดจากซากศพ วิธีการเลือกสัตว์สังเวยในพิธีบูชายัญ เรื่องราวของกลุ่มคนลึกลับที่ผู้คนไม่เชื่อว่ามีอยู่ภายใต้การชี้นำของความชั่วร้ายแต่โบราณกาล

ในเรื่อง Philtre Tip (พ.ศ. 2504) ได้อ้างถึงยาสเน่ห์ใน "ตำราเวทย์ของลุดวิก พรินน์ ฉบับภาษาอังกฤษ" และเป็นครั้งแรกที่บล็อกได้ยกถ้อยคำของพรินน์ในหนังสือมาใช้โดยตรง

ใกล้เคียง

เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ เดวิด เบคแคม เดอะสตาร์ ค้นฟ้าคว้าดาว ปี 7 เดอะสตาร์ ค้นฟ้าคว้าดาว ปี 6 เดอะสตาร์ ค้นฟ้าคว้าดาว ปี 9 เดอะทอยส์ เดกซาเมทาโซน เดอะสตาร์ ค้นฟ้าคว้าดาว ปี 8 เดอะบีเทิลส์ เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์